- SUMIFS()
ใช้: รวมยอดขายตามเงื่อนไขหลายอย่าง เช่น ยอดขายแต่ละสาขา แต่ละหมวดสินค้า - COUNTIFS()
ใช้: นับจำนวนรายการขายตามเงื่อนไข เช่น จำนวนรายการสินค้าขายดี - AVERAGEIFS()
ใช้: หาค่าเฉลี่ยตามเงื่อนไข เช่น ยอดขายเฉลี่ยต่อวันของแต่ละสาขา - VLOOKUP()
ใช้: ดึงข้อมูลสินค้าจากฐานข้อมูล เช่น ราคา, ต้นทุน - INDEX() + MATCH()
ใช้: ค้นหาข้อมูลแบบยืดหยุ่น ดีกว่า VLOOKUP - STOCKSUM()
ใช้: คำนวณสต็อกคงเหลือรวมทุกสาขา - MAX()/MIN()
ใช้: หายอดขายสูงสุด/ต่ำสุด หรือสินค้าที่ขายดี/ขายไม่ดี - RANK()
ใช้: จัดอันดับสินค้าขายดี หรือสาขาที่ทำยอดได้สูง - FORECAST()
ใช้: พยากรณ์ยอดขายในอนาคต - TREND()
ใช้: วิเคราะห์แนวโน้มยอดขาย - IF()
ใช้: สร้างเงื่อนไขแจ้งเตือนสต็อก - NETWORKDAYS()
ใช้: คำนวณวันทำการสำหรับการสั่งสินค้า - TODAY()
ใช้: อัพเดทข้อมูลประจำวัน - DATEDIF()
ใช้: คำนวณอายุสินค้าในสต็อก - CONCATENATE()
ใช้: สร้างรหัสสินค้า/รหัสการสั่งซื้อ - LEFT()/RIGHT()/MID()
ใช้: แยกรหัสสินค้าเพื่อวิเคราะห์ - WEEKNUM()
ใช้: วิเคราะห์ยอดขายรายสัปดาห์ - MONTH()
ใช้: วิเคราะห์ยอดขายรายเดือน - SUMPRODUCT()
ใช้: คำนวณมูลค่าสินค้าคงคลัง - SUBTOTAL()
ใช้: สรุปยอดขายย่อยที่กรองได้ - ROUNDUP()/ROUNDDOWN()
ใช้: ปัดเศษการสั่งซื้อสินค้า - IFERROR()
ใช้: จัดการข้อผิดพลาดในรายงาน - PROPER()
ใช้: จัดรูปแบบชื่อสินค้าให้สวยงาม - TRIM()
ใช้: ลบช่องว่างในข้อมูล - LEN()
ใช้: ตรวจสอบความยาวรหัสสินค้า - SUBSTITUTE()
ใช้: แก้ไขข้อมูลในรายการสินค้า - FIND()/SEARCH()
ใช้: ค้นหาข้อมูลในรายการสินค้า - TEXT()
ใช้: จัดรูปแบบตัวเลขในรายงาน - Power Pivot
ใช้: วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่จากหลายสาขา - Power Query
ใช้: ดึงและรวมข้อมูลจากหลายสาขา - Pivot Table
ใช้: สรุปยอดขายและสต็อกแบบหลายมิติ - Conditional Formatting
ใช้: ไฮไลท์สินค้าที่ต้องสั่งเพิ่ม - Data Validation
ใช้: ควบคุมการป้อนข้อมูลให้ถูกต้อง - LARGE()/SMALL()
ใช้: วิเคราะห์สินค้าขายดี/ขายไม่ดี - FREQUENCY()
ใช้: วิเคราะห์ความถี่การขาย - COUNTBLANK()
ใช้: ตรวจสอบข้อมูลที่ขาดหาย - AND()/OR()
ใช้: สร้างเงื่อนไขซับซ้อนในการแจ้งเตือน - OFFSET()
ใช้: อ้างอิงข้อมูลแบบไดนามิก
ประโยชน์ในการใช้งาน:
- ติดตามสต็อกแบบ Real-time
- วิเคราะห์ยอดขายทุกสาขา
- จัดการการสั่งซื้อสินค้า
- สร้างรายงานสรุปผู้บริหาร
- พยากรณ์ความต้องการสินค้า
- วิเคราะห์ประสิทธิภาพแต่ละสาขา
- ตั้งระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ
การใช้สูตรเหล่านี้จะช่วยให้ผู้จัดการร้านค้าปลีก:
- ไม่พลาดการสั่งซื้อ
- ลดสินค้าคงคลัง
- เพิ่มประสิทธิภาพการขาย
- ตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลจริง