- SUMIFS()
ใช้: รวมยอดตามหลายเงื่อนไข วิเคราะห์ยอดขาย/ค่าใช้จ่าย - COUNTIFS()
ใช้: นับจำนวนรายการตามเงื่อนไข - AVERAGEIFS()
ใช้: หาค่าเฉลี่ยตามเงื่อนไข เช่น ยอดขายเฉลี่ยแต่ละหน่วยธุรกิจ - VLOOKUP()
ใช้: ดึงข้อมูลจากตารางอ้างอิง - INDEX() + MATCH()
ใช้: ค้นหาข้อมูลแบบยืดหยุ่น ดีกว่า VLOOKUP - FORECAST()
ใช้: พยากรณ์ตัวเลขในอนาคต - TREND()
ใช้: วิเคราะห์แนวโน้มข้อมูล - GROWTH()
ใช้: คำนวณการเติบโตแบบ exponential - NPV()
ใช้: คำนวณมูลค่าปัจจุบันสุทธิ - IRR()
ใช้: คำนวณอัตราผลตอบแทนภายใน - PMT()
ใช้: คำนวณค่างวดเงินกู้ - XNPV()/XIRR()
ใช้: คำนวณ NPV/IRR สำหรับกระแสเงินสดไม่สม่ำเสมอ - SUMPRODUCT()
ใช้: คำนวณผลรวมแบบถ่วงน้ำหนัก - NETWORKDAYS()
ใช้: คำนวณจำนวนวันทำการ - DATEDIF()
ใช้: คำนวณระยะเวลาระหว่างวันที่ - EOMONTH()
ใช้: หาวันสิ้นสุดเดือน - EDATE()
ใช้: คำนวณวันที่ในอนาคต - WEEKNUM()
ใช้: หาเลขที่สัปดาห์สำหรับรายงาน - WORKDAY()
ใช้: คำนวณวันทำการถัดไป - IF()
ใช้: สร้างเงื่อนไขการรายงาน - AND()/OR()
ใช้: สร้างเงื่อนไขซับซ้อน - IFERROR()
ใช้: จัดการข้อผิดพลาดในรายงาน - ROUND()/ROUNDUP()/ROUNDDOWN()
ใช้: ปัดเศษตัวเลขในรายงาน - LARGE()/SMALL()
ใช้: หาค่าสูงสุด/ต่ำสุดลำดับต่างๆ - RANK()
ใช้: จัดอันดับข้อมูล - PERCENTILE()
ใช้: หาค่าเปอร์เซ็นไทล์ - STDEV()/VAR()
ใช้: วัดการกระจายของข้อมูล - CORREL()
ใช้: วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร - CONCATENATE()
ใช้: รวมข้อความ สร้างรายงาน - LEFT()/RIGHT()/MID()
ใช้: แยกข้อมูลจากข้อความ - LEN()
ใช้: นับความยาวข้อความ - PROPER()
ใช้: จัดรูปแบบข้อความให้สวยงาม - TRIM()
ใช้: ลบช่องว่างไม่จำเป็น - SUBSTITUTE()
ใช้: แทนที่ข้อความในรายงาน - TEXT()
ใช้: จัดรูปแบบตัวเลขเป็นข้อความ - OFFSET()
ใช้: อ้างอิงข้อมูลแบบไดนามิก - INDIRECT()
ใช้: สร้างการอ้างอิงแบบไดนามิก - SUBTOTAL()
ใช้: คำนวณผลรวมย่อยที่ยืดหยุ่น - Power Pivot
ใช้: วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ - Power Query
ใช้: ดึงและจัดการข้อมูลอัตโนมัติ - DAX (Data Analysis Expressions)
ใช้: สร้างการคำนวณซับซ้อน - Pivot Table
ใช้: สร้างรายงานสรุปแบบไดนามิก - GETPIVOTDATA()
ใช้: ดึงข้อมูลจาก Pivot Table - Conditional Formatting
ใช้: ไฮไลท์ข้อมูลสำคัญ - Data Validation
ใช้: ควบคุมการป้อนข้อมูล - Power BI Integration
ใช้: สร้าง dashboard แบบ interactive - VBA Macros
ใช้: อัตโนมัติรายงานประจำ - Solver
ใช้: หาค่าที่เหมาะสมที่สุด - Scenario Manager
ใช้: วิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ
ประโยชน์ในการใช้งาน:
- สร้างรายงานอัตโนมัติ
- วิเคราะห์ผลประกอบการ
- พยากรณ์แนวโน้มธุรกิจ
- ติดตาม KPIs
- จัดทำงบประมาณ
- วิเคราะห์ความเบี่ยงเบน
- สร้าง Dashboard ผู้บริหาร
การใช้สูตรเหล่านี้จะช่วยให้ Controller:
- ประหยัดเวลาทำรายงาน
- นำเสนอข้อมูลได้ชัดเจน
- วิเคราะห์ข้อมูลได้ลึกซึ้ง
- ตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลจริง
- สื่อสารกับผู้บริหารได้มีประสิทธิภาพ