36 สูตร Excel สำหรับผู้จัดการคลังสินค้า จัดการสต็อกหลายสาขาในไฟล์เดียว

  1. =SUMIFS() – รวมจำนวนสินค้าตามหลายเงื่อนไข เช่น สาขา+ประเภท+แบรนด์
  2. =COUNTIFS() – นับรายการสินค้าตามเงื่อนไขที่กำหนด
  3. =MINIFS() – หาสินค้าคงเหลือต่ำสุดตามเงื่อนไข
  4. =MAXIFS() – หาสินค้าคงเหลือสูงสุดตามเงื่อนไข
  5. =IF(AND()) – ตรวจสอบหลายเงื่อนไข เช่น สินค้าขาด+ต้องสั่งเพิ่ม
  6. =VLOOKUP() – ค้นหาข้อมูลสินค้าจากรหัส
  7. =INDEX(MATCH()) – ค้นหาข้อมูลแบบยืดหยุ่นจากหลายตาราง
  8. =DATEDIF() – คำนวณอายุสินค้าในคลัง
  9. =NETWORKDAYS() – นับจำนวนวันทำการสำหรับการสั่งซื้อ
  10. =SUMPRODUCT() – คำนวณมูลค่าสินค้าคงคลัง (จำนวน×ต้นทุน)
  11. =TODAY() – แสดงวันที่ปัจจุบันสำหรับการตรวจนับ
  12. =EOMONTH() – หาวันสิ้นเดือนสำหรับรายงาน
  13. =LEFT() – ดึงรหัสประเภทจากรหัสสินค้า
  14. =RIGHT() – ดึงรหัสย่อยจากรหัสสินค้า
  15. =MID() – ดึงข้อมูลกลางของรหัสสินค้า
  16. =CONCATENATE() – รวมรหัสสินค้ากับชื่อสินค้า
  17. =IFERROR() – จัดการข้อผิดพลาดในสูตร
  18. =ROUND() – ปัดเศษจำนวนสินค้า
  19. =PROPER() – จัดรูปแบบชื่อสินค้าให้ขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่
  20. =OFFSET() – สร้างช่วงข้อมูลแบบยืดหยุ่น
  21. =COUNTA() – นับจำนวนรายการที่ไม่ว่าง
  22. =COUNTBLANK() – นับช่องว่างในรายการสินค้า
  23. =TEXT() – จัดรูปแบบตัวเลขเป็นข้อความ
  24. =VALUE() – แปลงข้อความเป็นตัวเลข
  25. =SUBSTITUTE() – แทนที่ข้อความในชื่อสินค้า
  26. =FORECAST() – พยากรณ์ความต้องการสินค้า
  27. =TREND() – วิเคราะห์แนวโน้มการเคลื่อนไหวสินค้า
  28. =MOD() – หาเศษจากการหาร ใช้แยกกลุ่มสินค้า
  29. =RANK() – จัดอันดับสินค้าคงคลัง
  30. =TRANSPOSE() – สลับแถวกับคอลัมน์ในรายงาน
  31. =AVERAGEIFS() – หาค่าเฉลี่ยตามเงื่อนไข
  32. =INDIRECT() – อ้างอิงเซลล์จากข้อความ
  33. =CHOOSE() – เลือกค่าจากรายการตามเงื่อนไข
  34. =SUBTOTAL() – คำนวณผลรวมย่อยที่ซ่อนแถวได้
  35. =WEEKNUM() – ดูเลขที่สัปดาห์สำหรับรายงาน
  36. =WORKDAY() – คำนวณวันทำงานถัดไปสำหรับการสั่งซื้อ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *